ความแตกต่างของวงดรตรีในประเทศไทยและต่างประเทศ

thai three

เสียงดรตรีคือเสียงเพลงที่ให้ความไพเราะแก่ผู้ฟังไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เช่นกันเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีไม่เคยทำให้ใครเป็นอันตราย ถ้าหากพูดถึงดนตรีแล้ว ทั้งไทยแล้วก็ต่างประเทศนั้นสิ่งที่เหมือนกันก็คือมีเพลงให้ฟังกันทั้งประเทศแต่ความแตกต่างในเสียงเพลงก็ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่อย่างของประเทศไทยเองก็จะเป็นการคงไว้แบบไทยเดิมที่บางทีก็นำเอาความทันสมัยเข้ามาประยุคใช้ปรับเข้ากับดนตรีไทยอีกด้วยเช่นกันและในบางทีดนตรีสากลนั้นก็นำเอาเครื่องดนตรีไทยนั้นมาผสมผสานเข้ากับเครื่องดีดสีตีเป่าของไทยอีกด้วย

เพลงแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ ดนตรีไทย และ ดนตรีสากล

ดนตรีไทยthai

ดนตรีไทยก็มีอยู่ด้วยกันหลายประเภทความแตกต่างก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือก ดีด สี ตี เป่า เพราะว่าดนตรีไทยนั้นมีหลายชนิดแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหนเครื่องดนตรีที่คนส่วนมากนิยมเล่นกันก็เห็นจะเป็น ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก กลองแขก ตะโพน อื่นๆ อีกมากมายที่มีให้เล่นกันให้ศึกษากัน

ดนตรีสากลthai two

ดนตรีสากลถือได้ว่าเป็นเครื่องดนตรีที่ทั่วโลกนั้นนิยมเล่นกันมากไม่ว่าจะเป็นไทยเองก็ตามแต่ต้นกำเนิดหน้าจะมาจากต่างประเทศมากกว่าเพราะว่าเป็นของสากล โดยเครื่องดนตรีส่วนมากที่ใช้กันก็จะประกอบไปด้วย กีตาร์ คลาริเนต แซ็กโซโฟน ฟลุท เปียโน ออร์แกน ยังมีอีกมากมายหลายชนิดตามความถนัดและความชอบของคนที่จะเลือกเล่นเลือกที่จะศึกษา

ความแตกต่างของเสียงดนตรีไทยและสากล

เสียงดนตรีแต่ละชนิดให้ความไพเราะไม่เหมือนกันบางอย่างก็ให้เสียงแหลมเสียงทุ้มเสียงก้องกังวาลแล้วแต่ว่าเครื่องดนตรีนั้นจะเน้นเสียงอะไรอย่างเช่นเสียงของเครื่องดนตรีไทยระนาดเอกก็จะให้เสียงแหลมถ้าใช้ไม้แข็งแต่ถ้าใช้ไม้นวมก็จะให้เสียงที่นุ่มนวลแต่ถ้าเป็นดลตรีสากลเช่นกีตาร์ก็จะให้เสียงที่ก้องกังวาลแบบนุ่มๆ ถ้าหากเป็นเครื่องเป่าของดนตรีสากลแล้วก็จะให้เสียงที่แหลมไม่เหมือนกับขลุ่ยของดนตรีไทยที่จะให้เสียงนุ่มๆ